ทำไมผู้หญิงถึง "ปวดหัวข้างเดียว" บ่อยกว่าผู้ชาย? ไขความลับเรื่องฮอร์โมนที่ซ่อนอยู่

อาการปวดหัวข้างเดียว โดยเฉพาะแบบปวดตุ๊บ ๆ ที่ขมับ เป็นปัญหาที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างชัดเจน หลายคนอาจสังเกตว่าอาการมักเกิดซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาเดิมของเดือน หรือสัมพันธ์กับความเครียดและการพักผ่อน คำถามคือ ทำไมผู้หญิงถึงมีแนวโน้มปวดหัวข้างเดียวบ่อยกว่า และฮอร์โมนมีบทบาทอย่างไร บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกลไกที่ซ่อนอยู่ เพื่อให้ดูแลตัวเองได้ตรงจุดค่ะ

ฮอร์โมนกับอาการปวดหัวข้างเดียว
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงปวดหัวข้างเดียวบ่อย คือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนนี้มีผลต่อการขยาย–หดตัวของหลอดเลือดในสมอง เมื่อระดับฮอร์โมนแกว่งตัว เช่น ช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน, ช่วงตั้งครรภ์หรือหลังคลอด, ช่วงวัยทอง หลอดเลือดในสมองจะไวต่อการกระตุ้นมากขึ้น จึงเกิดอาการปวดแบบเป็นจังหวะ และมักปวดเพียงข้างเดียวได้ค่ะ

ทำไมบางคนปวดหัวข้างขวาบ่อยเป็นพิเศษ
แม้ไมเกรนจะเกิดได้ทั้งสองข้าง แต่มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่รายงานว่า ปวดหัวข้างขวา บ่อยกว่าข้างซ้าย สาเหตุหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับ

  • การใช้งานกล้ามเนื้อคอและไหล่ข้างถนัดมากกว่า
  • ความเครียดสะสมจากท่าทางการทำงาน เช่น นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นาน
  • การตอบสนองของระบบประสาทที่ไม่สมดุลในแต่ละคน
  • เมื่อรวมกับฮอร์โมนที่ผันผวน อาการปวดหัวข้างเดียวจึงเกิดซ้ำและรุนแรงขึ้นได้ค่ะ


ปัจจัยเสริมที่ทำให้ผู้หญิงปวดหัวบ่อย
นอกจากฮอร์โมน ยังมีปัจจัยอื่นที่พบได้บ่อยในผู้หญิง เช่น

  • การนอนหลับไม่เป็นเวลา
  • ความเครียดทางอารมณ์
  • ภาวะขาดน้ำหรือข้ามมื้ออาหาร
  • คาเฟอีนและอาหารกระตุ้นบางชนิด

ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็น “ตัวจุดชนวน” ให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียว โดยเฉพาะในวันที่ร่างกายอ่อนล้าค่ะ

วิธีดูแลตัวเองให้เหมาะกับผู้หญิง

  1. จดบันทึกรอบเดือนและวันที่ปวดหัว เพื่อหาความเชื่อมโยง
  2. พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
  3. ดื่มน้ำสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น
  4. หากปวดหัวบ่อยหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการรักษาเชิงป้องกัน

ผู้หญิงมีแนวโน้ม ปวดหัวข้างเดียว มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนร่วมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากอาการเกิดซ้ำบ่อย เช่น ปวดหัวข้างขวา จนรบกวนการทำงานหรือคุณภาพชีวิต การตรวจประเมินอย่างละเอียดจะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ